รวมนวัตกรรมฟื้นฟูเซลล์ผิว
ช่วยเคลียร์ฝ้าหน้าทำหน้าหมอง พร้อมฟื้นฟูโครงสร้างผิว
เพื่อผิวที่กระจ่างใสเรียบเนียนขึ้น
"ฝ้า" ปัญหาสุดกลุ้มใจของหลายคน เพราะเมื่อเกิดขึ้นบนใบหน้าแล้ว ก็ยากที่จะรักษาให้หายขาด บ่อยครั้งการรักษาอาจเป็นการเร่งให้เกิดฝ้าขึ้นตามมาด้วย ดังนั้นเรื่อง "ฝ้า" จึงเป็นเรื่องที่สำคัญและควรใส่ใจเป็นอย่างมาก บางท่านอาจจะยังไม่ทราบว่ามันเกิดมาจากสาเหตุอะไร และมีวิธีการรักษาอย่างไรบ้าง เรามีคำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้มาฝากกันค่ะ
ฝ้า
ฝ้าจะมีลักษณะเป็นปื้นๆ สีน้ำตาลเข้มกว่าสีผิวกระจายตามโหนกแก้ม หน้าผาก จมูก ฝ้ามีหลายชนิด คือ ฝ้าตื้น ฝ้าผสม และฝ้าลึก
ฝ้ากระเกิดจากอะไร
สาเหตุหลักของการเกิด ฝ้า ส่วนใหญ่เกิดจากการผลิตเม็ดสีผิวที่มากเกินไป(Melanin pigment) หรือการผลิตเม็ดสีที่ไม่เท่ากัน ซึ่งเกิดจากทั้งปัจจัยภายใน คือฮอร์โมนจากภายในหรือการตั้งครรภ์จากกรรมพันธุ์ และปัจจัยภายนอก เช่น แสงแดดหรือฮอร์โมนที่ร่างกายได้รับ (ยาที่มีฮอร์โมนเพศ เป็นต้น)
รังสีUVและความร้อน
รังสีUVจากแสงแดด โดยเฉพาะช่วง10.00-14.00 น. มักเป็นสาเหตุหลักๆที่ทำให้ฝ้ากระเกิดขึ้นได้ เพราะจะไปกระตุ้นให้ เมลานีนมีการสร้างเม็ดสีมากขึ้น และรวมไปถึงความร้อนจากการประกอบอาหารและแสงไฟด้วยที่เป็นตัวการให้เกิดฝ้า
รังสีหรือความร้อนจากจอคอมพิวเตอร์
รังสีจากหน้าจอคอม ส่งผลรบกวนต่อผิวหน้า ทำให้เกิดความร้อนสะสม รบกวนเมลานีนหรือเม็ดสีผิว ทำให้เกิดฝ้าที่เด่นชัดขึ้น
การตั้งครรภ์
ในช่วงตั้งครรภ์จะเกิดการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน ซึ่งเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนจะสูงขึ้นโดยเฉพาะช่วงไตรมาส3ของการตั้งครรภ์ เมื่อคลอดบุตรแล้ว ฝ้าอาจจะค่อยๆจางลงใช้ระยะเวลาเป็นเดือนๆ ในรายที่เป็นมากอาจเหลือร่องรอยดำไว้บ้าง
ยาคุมกำเนิด
ฮอร์โมนเอสโตรเจนเมื่อมีในร่างกายระดับสูง ส่งผลไปกระตุ้นเซลล์สร้างสีเมลาโนไซท์ ทำให้เกิดฝ้าได้ ฮอร์โมนชนิดนี้สามารถพบได้ในยาคุมกำเนิดหลายๆยี่ห้อ เพราะฮอร์โมนนี้เป็นกลไกสำคัญในการคุมกำเนิด คนที่ทานในระยะเวลา6เดือนเป็นต้นไป มักจะมีปัญหาเรื่องฝ้า ต้องคอยสังเกตว่าฝ้านั้นเกิดจากยาคุมกำเนิดหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นควรพบแพทย์เพื่อเปลี่ยนวิธีคุมกำเนิด
เครื่องสำอาง
ในเครื่องสำอางบางชนิดมีการเจือปนสารเคมีหรือสารอันตรายต่อผิวหน้า เกิดอาการแพ้ ระคายเคือง จนกระทั่งสะสมบนใบหน้า ทำให้ใบหน้ามีรอยด่างดำ เกิดเป็นฝ้าได้
ความเครียด
เมื่อร่างกายเกิดความเครียด จะทำให้เกิดการสร้างอนุมูลอิสระขึ้นมาในร่างกาย ซึ่งอนุมูลอิสระก็เป็นอีกตัวการหนึ่งที่มีส่วนไปกระตุ้นการสร้างเม็ดสีผิวทำงานผิดปกติ
ประเภทของฝ้า
1. ฝ้าแบบตื้น
จะอยู่ในระดับผิวหนังกำพร้า (ผิวหนังชั้นนอก) มักมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลขอบชัดเกิดได้ง่าย และสามารถรักษาให้หายได้เร็ว ฝ้าชนิดนี้รักษาได้โดยการใช้ยาทาฝ้า, ครีมที่มีส่วนผสมของสารลดการทำงานของเม็ดสี และทายากันแดดก็สามารถลดเลือนฝ้าให้ดีขึ้น การทาครีมรักษาฝ้าตื้นต้องใช้เวลา 1-3เดือนฝ้าจึงเริ่มจางลงบางราย การรักษาอาจใช้เวลานานกว่านั้น หรือไม่ได้ผลเลย และในกรณีที่ดื้อต่อการรักษาด้วยการทายา อาจจะต้องใช้เลเซอร์เพื่อรักษาฝ้าควบคู่ไปด้วย
2. ฝ้าแบบลึก
จะมีเม็ดสีเมลานินสีน้ำตาลดำ จำนวนมากกว่าปกติ อยู่ในชั้นที่ลึกกว่าฝ้าแบบตื้น โดยจะเกิดฝ้าในระดับที่ลึกกว่าผิวหนังกำพร้า จะเกิดความผิดปกติในระดับชั้นผิวหนังแท้ มีลักษณะเป็นสีน้ำตาล น้ำตาลเข้มถึงดำ ขอบเขตไม่ชัด รักษาได้ยากกว่าฝ้าชนิดตื้น และไม่ค่อยหายขาด การใช้ยาทาฝ้าอ่อนๆ และยาทากันแดด เพียงแต่ช่วยให้ดีขึ้นเท่านั้น การจะรักษาฝ้าลึกให้ดีขึ้นได้ ต้องใช้เลเซอร์ที่สามารถลงลึกเข้าไปในชั้นผิวหนังด้านใน โดยไม่ทำลายผิวชั้นนอก และต้องเพิ่มประสิทธิภาพเพียงพอที่จะทำลายเม็ดสีดำเมลามิน โดยไม่มีผลต่อเนื้อเยื่อโดยรอบ
3. ฝ้าผสม
คือฝ้าที่มีเม็ดสีเมลานิน อยู่ที่ผิวหนังชั้นบน(Epidermis) และอยู่ในผิวหนังชั้นใน(Dermis) หลังทายาฝ้าจะพบว่าเงาฝ้าบางส่วนจางลง แต่ฝ้าที่อยู่ลึกๆจะไม่ค่อยได้ผล สำหรับเม็ดสีฝ้า(Melanin) ที่อยู่ลึกๆต้องใช้เลเซอร์ที่สามารถลงได้ลึกถึงผิวหนังชั้นในโดยไม่ทำอันตรายต่อผิวชั้นบน ตัวเลเซอร์ที่ได้ผลคือ Duplex laser เทคโนโลยีล่าสุดในการดูแลรักษาผิว ด้วยอนุภาคลำแสงNANO ที่เข้าถึงปัญหาได้อย่างตรงจุด พร้อมทั้งสามารถทำลายเม็ดสีได้ละเอียดสูงโดยไม่เกิดความร้อน ไม่ทำลายผิว
4. กรณีที่เป็นฝ้าเส้นเลือด Vascular Melasma
เกิดจากเยื้อบุผนังเส้นเลือดผลิตฮอร์โมนออกมากระตุ้นการสร้างเม็ดสี (Vascular Endothelial growth factor) จึงเกิดฝ้าขึ้น กรณีที่เป็นฝ้าเลือด บริเวณที่เป็นฝ้ามักจะออกสีแดง หรือมีเส้นเลือดฝอยบริเวณนั้นเยอะ การใช้ Vascular laser เช่น Duplex laser พร้อมกับนวัตกรรมAuroraที่จะช่วยฟื้นฟูและบำรุงโครงสร้างของเซลล์ผิว และจะช่วยให้ฝ้าต่างๆดีขึ้นถึงหายได้ และยังสามารถป้องกันการเกิดฝ้าใหม่ได้
การรักษาฝ้าที่ดื้อต่อการรักษา หรือรอยดำที่ดื้อต่อการรักษาที่เห็นผลไวที่สุดในตอนนี้คือ Pico Laser และใช้ทรีทเมนท์ที่เป็นตัวยาสำหรับฉีด ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมที่ช่วยทำให้ฝ้าที่ดื้อต่อการรักษา หรือรอยดำที่ดื้อต่อการรักษาหายไวขึ้น
Duplex laser
เทคโนโลยีล่าสุดในการดูแลรักษาผิว ลดฝ้าที่ยากต่อการกำจัดด้วยอนุภาคลำแสงNANO ที่เข้าถึงปัญหาได้อย่างตรงจุด พร้อมทั้งสามารถทำลายเม็ดสีได้ละเอียดสูงโดยไม่เกิดความร้อน ไม่ทำลายผิว
หลักการทำงาน
Duplex Laser เป็นการผสมผสานของเลเซอร์ 2 ชนิด
- โดยชนิดแรกเป็นเลเซอร์สีเหลืองความยาวคลื่น 578 nm
ซึ่งจะมีผลต่อเส้นเลือดฝอยเล็กๆ ทำให้รอยแดงจางลง โดยไม่ทำให้ผิวด้านบนเสียหายจึงไม่เกิดจ้ำเลือดหลังการรักษา
- ชนิดที่สอง เป็นสีเขียวเลเซอร์แสงสีเขียวความยาวคลื่น 511 nm.
ซึ่งจะช่วยให้เม็ดสีของผิวหนังด้านบน แต่ไม่ทำให้ผิวด้านล่างเสียหาย ลดการเกิดปัญหา ฝ้าทุกชนิด, กระ, ผิวคล้ำ, สีผิวไม่สม่ำเสมอ ทำให้ผิวขาวกระจ่างใส รอยแดง เสื้อเลือดฝอยจางลง ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
นอกจากนี้เลเซอร์ทั้งสองชนิดนี้ถ้าได้ทำงานร่วมกัน จะให้เลเซอร์ที่มีพลังงานสูงมากพอที่จะกำจัดตุ่มเนื้องอกบางชนิดได้ สุดท้ายจากการผสมผสานการใช้เทคโนโลยี Fast Edge Micro pulse จะมีผลกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของผิวหนัง ทำให้ช่วยป้องกันและรักษาริ้วรอยของผิวหน้าได้ ไฝแดง ปานแดงเส้นเลือดฝอยติ่งเนื้อ ไฝ เนื้องอกใต้ตา รอยจุดด่างดำ ฝ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพดีกับทุกสีผิว
Aurora Therapy
บำบัดฟื้นฟูเซลล์ผิวด้วยแสง
เทคโนโลยีดูแลฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้กลับมามีกระบวนการทำงานที่เป็นปกติ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ซ่อมแซมบริเวณที่มีอาการอักเสบได้ในเวลาอันสั้น ซึ่งเป็นเทคนิคที่จะช่วยฟื้นฟูและรักษาผิวที่เกิดฝ้าอย่างอ่อนโยน และเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย องค์การอาหารและยาทั้งในประเทศไทย และ สหรัฐอเมริกา USA FDA
การรักษาฝ้าด้วยโปรแกรม Aurora Therapy
จะเป็นการใช้ลำแสงสีเหลืองที่มีความยาวคลื่น 590 นาโนเมตรซึ่งมีคุณสมบัติในการรักษารอยดำรอยแดง กระ ฝ้าต่างๆ ลดการสร้างเม็ดสี คืนความกระจ่างใสให้กับผิวพรรณเช่นเดียวกับแสงสีเขียว แต่จะต่างกันตรงที่แสงสีเหลืองจะมีคุณสมบัติในการกระตุ้นต่อมน้ำเหลืองให้ไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น
ข้อดีของการรักษาด้วย นวัตกรรม Aurora Therapy
- รักษาความเสื่อมสภาพของผิวได้ลึกถึง “เซลล์”
โดยปลอดภัยไม่ทำลายเซลล์อื่นๆในบริเวณที่ทำ
- กระตุ้นการทำงานของเซลล์ให้กลับมาทำงานได้อย่าง
เป็นปกติตามกลไกธรรมชาติ และให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
- ช่วยลดอาการบวมหลังจากการผ่าตัดใหญ่ ซึ่งจะทำให้
เห็นผลลัพธ์จากการผ่าตัด และฟื้นตัวได้เร็วยิ่งขึ้น
- หลังทำไม่ต้องพักฟื้นไม่มีผลข้างเคียง สามารถใช้ชีวิต
ประจำวันได้หลังทำ
- ขณะทำไม่รู้สึกเจ็บ เปรียบเสมือนให้ผิวได้ผ่อนคลาย
รับการบำบัดด้วยแสง
ฉีดยารักษาฝ้า
เป็นการฉีดตัวยารักษาฝ้าเข้าไปในชั้นผิวตื้น ๆ เป็นการกระจายตัวยารักษาฝ้าอย่างเฉพาะเจาะจง เทคนิคนี้ช่วยนำตัวยาลงสู่เซลล์ผิวที่มีปัญหาและตรงจุด ทำให้ตัวยารักษาฝ้าออกฤทธิ์ในชั้นผิวหนัง
หลักการทำงานของยาฉีดฝ้า
Star Clinic จะใช้ตัวอย่างที่เป็นสูตรเฉพาะที่ผ่านการรับรองมาแล้ว และพบว่าสามารถใช้รักษาผิวที่มีปัญหาฝ้า กระ และจุดด่างดำ โดยจะเข้าไปยับยั้งการผลิตเม็ดสีผิวที่เป็นสาเหตุของการเกิดฝ้า ส่งผลให้ฝ้าค่อยๆจางลงและหายไปในที่สุด
ประโยชน์
· ช่วยลดเม็ดสีเมลานินต้นเหตุทำให้เกิดฝ้าแบบเร่งด่วน
· ช่วยลดฝ้า กระ จุดด่างดำหรือรอยดำจากสิว
· เห็นผลเร็ว
การฉีด D Pigment ลดฝ้า
ช่วยรักษาปัญหาของสีผิวผิดปกติบนใบหน้า
โดยการฉีดเข้าที่จุดที่มีปัญหา เช่น ลดเม็ดสี ฝ้า กระ จุดด่างดำ เผยผิวกระจ่างใส
เป็นการฉีดสาร ที่ส่วนประกอบของ Growth Factor กว่า800 ชนิด ที่เป็นองค์ประกอบตั้งต้นของสเต็มเซลล์ ซึ่งมีประโยชน์ต่อการซ่อมแซมฟื้นฟูร่างกาย ทั้งด้านสุขภาพ ด้านความงาน และระบบภูมิคุ้มกันต่างๆ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างฮอร์โมน ให้มีฮอร์โมนระดับที่ใกล้เคียงกับวัยหนุ่มสาว
หลักการทำงานของการฉีด D pigment
Star Clinic จะใช้ตัวยา D pigment ที่เป็นสูตรเฉพาะที่ผ่านการรับรองมาแล้ว และพบว่าสามารถใช้รักษาผิวที่มีปัญหาเช่น ฝ้า กระ และจุดด่างดำ โดยจะฉีดตัวอย่าง เพื่อให้เข้าไปกระตุ้นสเต็มเซลล์ในร่างกายซึ่งจะช่วยให้ร่างกายผลัดเซลล์เก่าที่เสื่อมสภาพ แล้วสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาแทนที่ จะทำให้ ผิวพรรณอ่อนเยาว์ขึ้น ริ้วรอยต่างๆไม่ว่าจะฝ้า กระ จุดด่างดำต่างๆก็จางลง
ประโยชน์ของการการฉีด D Pigment
- ช่วยรักษาฝ้ากระจุดด่างดำต่างๆ
- ช่วยให้ผิวพรรณอ่อนเยาว์ เนียนนุ่ม ชุ่มน้ำ
- ช่วยลดเลือนริ้วรอย แห่งวัยต่าง
- ปรับผิวให้กระจ่างใสขึ้น
- ช่วยฟื้นฟู คืนความหนุ่มสาว พร้อมป้องกันความเสื่อมของเซลล์
ทีมแพทย์สตาร์คลินิก มีประสบการณ์ด้านผิวพรรณและศัลยกรรมความงามมากกว่า 10 ปี
เปิดบริการทุกวัน เวลาทำการ 11.00 - 21.00 น.
ปรึกษาหรือสอบถามโปรโมชั่น โทร. 088-004-0005
อ่าน 3117 ครั้ง