เพราะมีน้อยคนที่จะดูแลเอาใจใส่เท้าอย่างถูกวิธีและทะนุถนอมและอากาศอับชื้นทำให้เท้าของคนเรามัก
จะมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย
การดูแลเท้าของตนเองนั้น ปฏิบัติไม่ยาก นั่นคือการเลือกสวมรองเท้าที่มีขนาดพอเหมาะ การดูแลเท้ารวม
ไปถึงการล้างเท้าทุกวัน ยกเว้นในกรณีที่ผิวหนังเท้าแห้งและแตกอยู่แล้ว หลังจากล้างเท้าไม่ควรสวม
รองเท้าและถุงเท้าทันที ควรรอให้เท้าแห้งสนิทก่อนจึงค่อยสวมรองเท้าอาจใช้ผ้าขนหนูซับเท้า หรือใช้
พัดลมเป่า เพื่อให้เท้าแห้งเร็วขึ้น
ทั้งนี้เพราะเท้าที่เปียกชื้นจะมีการติดเชื้อราที่เรียกว่า "ฮ่องกงฟุต" ได้ง่าย เนื่องจากเท้าเป็นอวัยวะที่มีต่อม
เหงื่อมากมาย ทำให้เหงื่อออกมาก ถ้าไม่หมั่นทำความสะอาดเท้าและรองเท้าจะส่งกลิ่นตุๆ ไปได้ไกล ใน
ขณะเดียวกันผิวหนังเท้ามีต่อมไขมันน้อย ฝ่าเท้าจึงแห้งและแตกง่าย ในกรณีนี้ต้องใช้ครีมให้ความชุ่มชื้น
ทา
เท้า...มีปัญหาอะไรบ้างและจะแก้ไขได้อย่างไร
1. ส้นเท้าแตก อาจต้องดูแลเท้าเป็นพิเศษระหว่างการอาบน้ำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เมื่อผิวหนังนุ่มตัว
จากการสัมผัสน้ำแล้ว ให้ใช้หินขัดขี้ไคลค่อยๆ ถูเท้าที่มีหนังหนาตัวขึ้นกว่าปกติ หลังจากนั้นให้ทาครีมให้
ความชุ่มชื้น นวดบริเวณส้นเท้าและฝ่าเท้า จนครีมซึมซาบเข้าไปนั่นแหละ วิธีนี้จะช่วยป้องกันปัญหาส้น
เท้าแตกได้ครับ
2. เหงื่อออกมาก สำหรับเท้าที่มีเหงื่อออกมากควรใช้แป้งฝุ่นโรยก็ช่วยได้ เลือกใช้แป้งทั่วไป หรือแป้ง
เฉพาะ สำหรับเท้าที่เรียกว่า foot powder ก็ได้ แป้งชนิดนี้มีลักษณะคล้ายแป้งฝุ่นทาตัว เพียงแต่เนื้อแป้ง
อาจหนากว่าและดูดซึมน้ำได้ดีกว่า การโรยแป้งทำให้ผิวที่เท้าแห้ง ไม่เฉอะแฉะ จึงลดอาการระคายเคือง
และช่วยให้เกิดความรู้สึกเย็นสบาย ควรเปลี่ยนถุงเท้าทุกวันและควรใส่รองเท้าสลับวันเว้นวัน คู่ใดไม่ได้ใส่
ก็ผึ่งเสียให้แห้ง
3. เล็บขบ คนที่สวมรองเท้าคับเกินไปและตัดเล็บผิดวิธี มักจะเกิดเล็บขบตามมา แรกๆ เริ่มจากเล็บที่งอก
ขึ้นมาใหม่อาจแทงผิวหนังข้างๆ เล็บ ทำให้เกิดการอักเสบบวมแดง การตัดเล็บเท้าที่ถูกต้องคือตัดเป็นเส้น
ตรง
ศัลยกรรมความงาม มากกว่า 10 ปี
เปิดบริการทุกวัน เวลาทำการ 11.00 - 21.00น
ปรึกษาสอบถามโปรโมชั่น โทร. 088-004-0005
อ่าน 1229 ครั้ง