คีเลชั่น (Chelation) สตาร์คลินิก
| การให้สารน้ำทางหลอดเลือด (ให้น้ำเกลือ)
ที่มีสารประกอบประเภทกรดอะมิโน ที่เรียกว่า
EDTA ผสมกับวิตามินและแร่ธาตุ ซึ่ง EDTA
ทำหน้าที่สำคัญ ในการจับสารโลหะหนัก
คีเลชั่น (Chelation) คือ การให้สารน้ำทาง
หลอดเลือด (ให้น้ำเกลือ) ที่มีสารประกอบ
ประเภทกรดอะมิโน ที่เรียกว่า EDTA ผสมกับ
วิตามินและแร่ธาตุ ซึ่ง EDTA ทำหน้าที่สำคัญ
ในการจับสารโลหะหนัก
คีเลชั่น คือ การให้สารน้ำทางหลอดเลือด (ให้น้ำเกลือ)
ที่มีสารประกอบประเภทกรดอะมิโน ที่เรียกว่า EDTA
ผสมกับวิตามินและแร่ธาตุ ซึ่ง EDTA ทำหน้าที่สำคัญ
ในการจับสารโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท สารหนู หรือ
แม้แต่แคลเซียมส่วนเกิน ซึ่งสะสมตกค้างในเนื้อเยื่อ
และพอกอยู่ ตามผนังหลอดเลือดของเราเพื่อขจัดออก
จากระบบปัสสาวะ ระยะเวลาในการให้น้ำเกลือแต่ละครั้ง
ประมาณ 2.5-3 ชั่วโมง ระหว่างที่ให้น้ำเกลือสามารถ
พักผ่อน ดูโทรทัศน์ อ่านหนังสือหรือฟังเพลงได้ตาม
ปกติธรรมดา ภายหลังจากการเสร็จการรักษาสามารถ
ประกอบกิจกรรมได้ตามปกติไม่จำเป็นต้องนอนพัก
การล้างพิษหลอดเลือด ผ่านทางน้ำเกลือ ที่มีสารประกอบ
ประเภทกรดอะมิโน ที่เรียกว่า EDTA ผสมกับวิตามินและ
แร่ธาตุ การให้สารน้ำทางหลอดเลือด ที่มีสารประกอบ
ประเภทกรดอะมิโน ที่เรียกว่า EDTA ผสมกับวิตามินและ
แร่ธาตุ ซึ่ง EDTA ทำหน้าที่สำคัญ ในการจับสารโลหะหนัก
ทำให้เส้นเลือดมีความยืดหยุ่นดีขึ้น ลดการสะสมของ
สารพิษที่เกาะตามผนังหลอดเลือด หรือสารโลหะหนัก
ส่วนเกินที่ตกค้างในน้ำเลือด ซึ่งทำให้เกิดปัญหาผนัง
หลอดเลือดอักเสบ ขรุขระ เส้นเลือดแข็งหรือตีบแคบ
อุดตัน ส่งผลให้ระบบไหลเวียน การลำเลียงไม่ดี
ก่อให้เกิดปัญหาโรคต่างๆมากมายเช่น โรคหัวใจ
ความดันโลหิตสูง หัวใจขาดเลือด และโรคความ
เสื่อมตามอวัยวะต่างๆ
- ขจัดสารพิษตกข้างในร่างกายและระบบ
หลอดเลือด
- ลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง
- ทำให้ระบบการไหลเวียนโลหิตดีขึ้น
- ลดอัตราเสี่ยงของหลอดเลือดแข็งอุดตันและ
ตืบแคบซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคความดัน
โลหิตสูง โรคหัวใจขาดเลือด
- ป้องกันโรคความเสื่อมต่างๆ ที่เกิดขึ้นจาก
ระบบหมุนเวียนที่ไม่ดี
โลกที่เต็มไปด้วยมลพิษ ทั้ง น้ำ และอากาศ ดิน อาหาร
ทุกอย่างล้วนมีโอกาสที่จะปนเปื้อนสารพิษ โลหะหนักได้
สารพิษโลหะหนักพบได้ในวัสดุก่อสร้าง เครื่องสำอาง
ยารักษาโรค อาหารที่ผ่านกระบวนการต่างๆ
แหล่งซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลสุขภาพ สิ่งมีชีวิตต่างๆ
รวมถึงมนุษย์ ก่อให้เกิดความผิดปกติ ในการแบ่ง
ตัวของเซลล์ทำให้ความสามารถในการนำสารอาหารไป
หล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ในร่างกายน้อยลง ส่งผลให้
เกิดความเสื่อมสภาพของอวัยวะในร่างกายอย่างต่อเนื่อง
EDTA จะไปจับกับโลหะหนัก เช่น เหล็ก และ แคลเซียม
ซึ่งสะสมพอกอยู่ตามผนังหลอดเลือดให้ไหลเวียนออกมา
ในกระแสเลือด รวมไปถึงโลหะหนักเป็นพิษที่สะสมอยู่ใน
เนื้อเยื่อร่างกายด้วย นอกจากนี้วิตามินและแร่ธาตุ
โดยเฉพาะสารต้านอนุมูลอิสระในขนาดที่เรียกว่า
Megadose (ขนาดมากพอที่จะส่งผลในการรักษา)
ก็จะไปรักษาหลอดเลือด ทำให้ผนังหลอดเลือดดีขึ้น
เส้นเลือดจะไม่ตีบตัน EDTA เป็นกรดอะมิโนที่ค้นพบเมื่อ
ปี 1930 โดยชาวเยอรมัน Franz Munz ซึ่งต่อมาได้
จดทะเบียนสำหรับเป็นยารักษาภาวะโลหะหนักสะสมใน
ร่างกาย ต่อมาในราวปี 1950 แพทย์สังเกตุพบว่า
ผู้ป่วยที่มารักษาภาวะพิษตะกั่วในโลหะด้วย EDTA และ
มีโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตันอยู่ด้วย กลับมีอาการของ
โรคเส้นเลือดหัวใจอุดตันดีขึ้น จึงนำมาสู่การศึกษา
กว้างขวางและในที่สุด ได้มีการใช้ EDTA Chelation
เพื่อการรักษาความผิดปกติของผนังหลอดเลือดด้วย
นอกเหนือจากพิษโลหะและพิษสะสม
จากการศึกษาวิจัย พบประโยชน์ของคีเลชั่นมากมายคือ
ลดอัตราการเกิดมะเร็งลงได้ 90%(Blumer&Reich 1980)
รักษาโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันได้ผล 87-89%
(Chappell and Stahl 1993) รักษาโรคการไหลเวียน
เลือดส่วนปลายอุดตันได้ผล 91% โดยได้ทำการ
วิเคราะห์จากงานวิจัย 19 ชิ้นรวมเป็นจำนวนผู้ป่วย
ในการวิจัย 22,675 คน ผู้ป่วยโรคผิวหนังแข็ง
โรคปวดข้อรูมาตอยด์ มีอาการดีขึ้น (Boyle&Clarke)
ความดันดีขึ้น เบาหวานดีขึ้น โรคไตดีขึ้น อาการ
อ่อนเพลียดีขึ้น ไขมันในเลือดลดลง (McDonagh,
Rudolph, and Cheraskin) Hancke and Flytlie 1993
สรุปผลการวิจัยพบว่า ผู้ป่วยที่เส้นเลือดอุดตันที่หมอ
นัดทำ bypass และนัด ตัดขาทิ้ง แล้วมาทำคีเลชั่น
จำนวน 92 ราย ยกเลิกการผ่าตัดไปได้มากถึง 89%
พบว่าคีเลชั่น ทำให้มวลกระดูกหนาขึ้น เชื่อว่าเกิดจาก
การที่แคลเซียมออกมาในกระแสเลือด จึงไปกระตุ้น
การหลั่งฮอร์โมนพาราไทรอยด์ ซึ่งทำหน้าที่ดึงแคลเซียม
ที่อยู่ในกระแสเลือดให้เข้าไปสร้างกระดูก
- ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการอุดตันของหลอดเลือด
เช่น อุดฟันด้วยโลหะ กับ มีไขมันในเส้นเลือดสูง
มี oxidative stress (ระดับอนุมูลอิสระสูง) เช่น
ดื่มชา กาแฟ แอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ หรือคนในบ้าน
ในที่ทำงานสูบ ฯลฯ
- ผู้ที่มีปัญหาพิษโลหะสะสมและปัญหาสารพิษ
อื่นๆ สะสมในร่างกาย
- ผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ การไหลเวียนเลือดบกพร่อง
มีอาการ เช่น เวียนหัวง่าย ฯลฯ
- ผู้ที่มีปัญหาโรคความดันโลหิตสูง เนื่องจาก
หลอดเลือดไม่ยืดหยุ่น
- ผู้ที่แข็งแรงดี แต่ต้องการป้องกันตนเองจากโรค
มะเร็งและโรคเส้นเลือด ตีบตัน รวมทั้งต้องการ
กำจัดสารพิษและโลหะหนักออกจากตัวและ
ต้องการรักษาสภาพของเส้นเลือดทั่วตัว ไม่ให้
เกิดการอุดตันในอนาคต
- ผู้ที่ไปทำบอลลูนเส้นเลือด,ใส่ขดลวด,
ทำบายพาส มาแล้ว เพราะจะเกิดการอุดตันใหม่
เร็วๆนี้ การทำคีเลชั่น จะลดปัญหาเหล่านั้นได้
ระหว่างการทำคีเลชั่นควรปฏิบัติตัวอย่างไร
ระหว่างที่ร่างกายกำจัดสารพิษ และลดโลหะหนักสะสม
ไตจะทำงานเพิ่มขึ้น ควรดื่มน้ำสะอาดเพิ่มขึ้น และ
ถ้าเป็นไปได้ ใช้น้ำดื่มที่มีขนาดโมเลกุลน้อยประเภท
activated water หรือ energized water ต่างๆ ควร
รับประทานวิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ในรูปอาหารเสริม
เพิ่มขึ้นไปจากอาหารประจำวัน เพราะบางทีเราจะ
เสียแร่ธาตุไปบ้างในระหว่างการคีเลชั่น